วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทัพพม่าเย้ยทัพไทยที่บางแก้วราชบุรี

บทความนี้ ต่อจาก พระเจ้าตากล้างแค้น ไทย"ล้อม"พม่าที่บางแก้วราชบุรี




จากหนังสือไทยรบพม่า พระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และจากหนังสือเรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวบรวมโดย ประยูร พิศนาคะ ผู้เขียนได้รวบรวมเรื่องราวการรบครั้งนี้เพื่อให้ลูกหลานไทยได้ทราบพอเป็นสังเขป ดังนี้

ทางฝ่ายพม่า อะแซหวุ่นกี้ ยกกองทัพพม่าตามครัวมอญมาถึงเมืองเมาะตะมะ เมื่อทราบว่า พระยาเจ่ง กับหัวหน้าครัวมอญพาครอบครัวหนีมาไทยทางด่านพระเจดีย์สามองค์ จึงให้ ยุงอคงหวุ่น (เคยเป็นแม่ทัพยกมาตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อคราวเสียกรุงครั้งสุดท้าย) ถือพล 5,000 ยกตามครัวมอญลงมาถึงท่าดินแดง (อยู่ระหว่าง อ.ทองผาภูมิ กับ อ.สังขละบุรี ขณะนี้จมอยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม) ได้รบกับกองทัพพระยายมราชแขก พระยายมราชแขกสู้ไม่ได้จึงถอยไปอยู่ที่ปากแพรก (คือเป็นที่พบกันระหว่างแม่น้ำแควน้อยกับแควใหญ่ อยู่ทางทิศตะวันตกของประตูเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่กลอง) งุยอคงหวุ่นจึงตามกองทัพพระยายมราชแขกไปถึงปากแพรก
พระยายมราชแขก รวบรวมกำลังไม่พอจึงทิ้งค่ายหนีมารวมกำลังใหม่ที่บ้านดงรัง (อยู่ในเขต ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี) งุยอคงหวุ่นเมื่อเห็นกองทัพไทยหนีก็ได้ใจ คิดว่าคงไม่มีทหารไทยต่อสู้อีกเสมือนเมื่อชนะไทยในคราวที่แล้ว จึงเริ่มดำเนินการปล้นทรัพย์จับผู้คนในเขตเมืองกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และนครชัยศรี โดยกำหนดให้ มองจายิด คุมพล 2,000 เป็นผู้ปฏิบัติและให้ตั้งค่ายอยู่ที่ปากแพรก ส่วนงุยอคงหวุ่นนำพล 3,000 ลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้หมายปล้นทรัพย์จับเชลยในแขวงเมืองราชบุรี เมืองสมุทรสงคราม และเมืองเพชรบุรี
ครั้นเมื่อยกมาถึง บ้านบางแก้ว ทราบว่ามีกองทหารไทยตั้งอยู่ที่ราชบุรี งุยอคงหวุ่นจึงตั้งค่ายลงที่บางแก้วสามค่าย ฝ่ายพระองค์จุ้ย ตั้งอยู่ที่เมืองราชบุรี ได้กระแสรับสั่งของพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงแนะนำไปว่า ถ้ากองทัพข้าศึกที่ยกมาไม่ใหญ่หลวงเหลือกำลังให้ชิงทำก่อนอย่าให้โอกาสแก่ข้าศึก (ข้อนี้เป็นยุทธวิธีของพระเจ้ากรุงธนบุรีมาทุกคราว)

เมื่อพระองค์เจ้าจุ้ยทราบว่า พม่าตั้งค่ายอยู่ที่บางแก้วประมาณสัก 3,000 คน เห็นว่าพอจะสู้ได้ และกองทัพกรุงก็กำลังตามเพิ่มเติมออกไป จึงยกกองทัพขึ้นไปตั้งที่ตำบลโคกกระต่าย ในทุ่งธรรมเสน ห่างค่ายพม่าลงมาประมาณ 80 เส้น แล้วให้หลวงมหาเทพ คุมกองหน้าไปตั้งค่ายโอบพม่าข้างด้านตะวันตก และให้กองทัพเจ้ารามลักษณ์ ยกไปตั้งค่ายโอบด้านตะวันออก แล้วบอกความเข้ามายังกรุงธนบุรี พระเจ้าตากทรงเร่งรัดกองทัพให้ยกไปเมืองราชบุรี ครั้งเสด็จถึงพระองค์เจ้าจุ้ย มาเฝ้ากราบทูลว่า
"ครั้งนี้พม่าดูหมิ่นไทยยิ่งนัก เมื่อหลวงมหาเทพไปตั้งค่ายโอบ พม่าพากันดูเล่นแล้วร้องถามออกมาจากค่ายว่า ตั้งค่ายแล้วหรือยัง ให้ตั้งค่ายเสียให้เสร็จ พม่าจะรอให้ไทยไปพร้อมกันจึงยกออกมาตีจะได้จับเชลยได้มากๆ ในคราวเดียวกัน" พระเจ้าตากได้ทรงฟังมีความขัดเคืองยิ่งนัก
หลังจากนั้นพระองค์ได้เสด็จยกทัพหลวงจากเมืองราชบุรีไปฟากตะวันตก และตั้งค่ายอยู่ที่ตำบลเขาพระ เหนือโคกกระต่าย ขึ้นไปประมาณ 40 เส้น พระเจ้าตากเสด็จทอดพระเนตรพิจารณาภูมิประเทศแล้ว จึงมีรับสั่งให้ตั้งค่ายล้อมพม่าอีกจนรอบกับให้ พระยาอินทรอภัย ไปตั้งรักษาหนองน้ำที่ เขาชั่วพราน (ชาวบ้านเรียกเขาช่องพราน) อันเป็นที่ข้าศึกอาศัยเลี้ยงช้างม้าพาหนะ และเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงอาหารของพม่า กับให้พระยารามัญวงศ์ คุมกองทหารมอญไปรักษาหนองน้ำที่ เขาชงุ้ม ซึ่งอยู่ในเส้นทางลำเลียงของข้าศึกไปทางเหนือ
ฝ่ายงุยอคงหวุ่น แม่ทัพพม่าเห็นกองทัพไทยตั้งล้อมแข็งแรงขึ้นจะนิ่งเฉยตามคำเยาะเย้ยไม่ได้เสียแล้ว ค่ำวันหนึ่งจึงจัดทหารเข้าปล้นค่ายทหารไทย ทหารไทยตีพม่าแตกกลับไป ปล้นครั้งที่ 2 ก็แตกกลับอีก ครั้งที่ 3 ให้ เนมิโยแมงละนรทา นายรองนำกำลังเข้าปล้นค่ายอีกในคืนเดียวกัน และกำลังส่วนนี้ก็แตกหนีไปอีกเช่นเคย เสียรี้พลล้มตายเจ็บป่วยเป็นอันมาก ไทยจับเป็นเชลยได้ก็มี งุยอคงหวุ่นเห็นทหารไทยรบกล้าหาญกว่าที่ตนเคยคิดไว้ และมีกำลังมากกว่าที่คาดคะเน จึงแต่งทหารเร็วเล็ดลอดไปบอกกองทหารพม่าที่ปากแพรก
ช่วงเวลานี้เอง อะแซหวุ่นกี้ คอยกองทัพงุยอคงหวุ่นที่เมาะตะมะ เห็นหายไปเกินกำหนดจึงให้ ตะแคงมรหน่อง เชื้อพระวงศ์พระเจ้าอังวะคุมพล 3,000 ยกตามลงมา เมื่อถึงปากแพรกจึงทารบจากมองจายิด ว่า กองทหารของงุยอคงหวุ่นภูกทหารไทยล้อมไว้ที่บางแก้ว จึงรีบให้มองจายิดรีบยกกำลังลงมาช่วยโดยด่วน ส่วนตัวตะแคงมรหน่องนำกำลังไปตีค่ายพระยายมราชแขกที่บ้านดงรัง หนองขาว เข้าตีทหารไทยไม่แตกจึงถอยไปตั้งอยู่ที่ปากแพรก เมื่อมองจายิดยกกำลังาช่วยงุยอคงหวุ่น แม่ทัพทั้งสองได้โจมตีค่ายทหารไทยเพื่อที่จะหักออกไปจากที่ล้อมอีกหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
ในช่วงเวลานี้เอง เจ้าพระยาจักรี ยกกองทัพกลับมาจากเชียงใหม่ ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าพระยาสุรสีห์ คุมกองทัพหัวเมืองเข้าไปช่วย พระเจ้าตาก ทรงมอบให้เจ้าพระยาจักรีขึ้นไปบัญชาการล้อมค่ายเพิ่มเติมที่บางแก้ว ให้เจ้าพระยาสุรสีห์ คุมกองทัพหัวเมืองทั้งปวงไปล้อมประชิดค่ายพม่าที่เขาชงุ้ม กันไว้อย่าให้ติดต่อหรือลงมาช่วยค่ายพม่าที่บางแก้วได้

อ่านต่อใน กักไว้ให้หิวโซ แล้วเอาข้าวล่อพม่า

************************
ที่มา : รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์. (2544). สงครามประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน. หน้า 5-9.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น